ตลาดน้ำอัมพวา (สมุทรสงคราม)
สัมผัสเสน่ห์ของวิถีชีวิตริมแม่น้ำ
ตลาดน้ำอัมพวาไม่เพียงเป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทยริมแม่น้ำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง การทานอาหารอร่อย หรือการนั่งเรือชมความงามของธรรมชาติ ตลาดน้ำอัมพวาจึงเป็นสถานที่ที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง
ตลาดน้ำอัมพวาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 60 กิโลเมตร ตลาดน้ำแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานและเต็มไปด้วยบรรยากาศวิถีชีวิตริมน้ำที่ยังคงความดั้งเดิมของคนไทย ตลาดน้ำอัมพวาเปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเวลามาเยือนได้ตามความสะดวก
ประวัติและความเป็นมาของตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวาเริ่มต้นขึ้นจากการเป็นตลาดซื้อขายสินค้าพื้นเมืองของชุมชนในบริเวณนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความนิยมของตลาดน้ำได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่คนกรุงเทพฯ นิยมมาเที่ยวกันมากในวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากความงดงามของตลาดและสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งที่ทำให้ตลาดน้ำอัมพวาน่าสนใจคือบรรยากาศของวิถีชีวิตดั้งเดิมที่ชาวบ้านยังคงรักษาไว้
ที่นี่ คุณจะได้พบกับบ้านไม้ริมน้ำที่ยังคงมีเสน่ห์และความงามแบบคลาสสิกของชุมชนริมแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศการเดินทางด้วยเรือเล็กที่ยังใช้ในการค้าขาย นอกจากนี้ยังมีการพายเรือเล็กของชาวบ้านที่ขนส่งผลไม้สดใหม่และอาหารท้องถิ่นให้กับนักท่องเที่ยว
ของกินที่ห้ามพลาด
หนึ่งในไฮไลท์ของการมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาคือการได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ที่นี่คุณจะพบอาหารทะเลสดๆ ที่ถูกนำมาขายริมแม่น้ำอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กุ้งเผา ปลาหมึกย่าง และปลานึ่ง นอกจากนี้ยังมีของหวานแบบไทย ๆ อย่างขนมเบื้อง ขนมครก และขนมไทยหายากอื่น ๆ ที่คุณสามารถลิ้มรสได้ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
อาหารอีกชนิดที่ถือเป็นที่นิยมคือ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ซึ่งคุณสามารถทานได้จากเรือที่พายมาขายริมฝั่ง แม้ก๋วยเตี๋ยวเรือจะมีขายในหลายที่ของประเทศไทย แต่ที่ตลาดน้ำอัมพวาคุณจะได้สัมผัสกับรสชาติดั้งเดิมที่มาพร้อมกับบรรยากาศของแม่น้ำอย่างแท้จริง
การนั่งเรือชมแม่น้ำและหิ่งห้อย
หลังจากช้อปปิ้งและทานอาหารอิ่มแล้ว กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการนั่งเรือชมบรรยากาศของแม่น้ำแม่กลองในยามค่ำคืน จุดเด่นของการนั่งเรือที่ตลาดน้ำอัมพวาคือการชม “หิ่งห้อย” ที่จะปรากฏตัวในยามค่ำคืน หิ่งห้อยที่ส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับตามต้นลำพูริมแม่น้ำถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมความงามของธรรมชาติ
การนั่งเรือชมวิวในแม่น้ำแม่กลองนอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของหิ่งห้อยแล้ว ยังเป็นการพักผ่อนที่ผ่อนคลายมาก นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือในตลาดน้ำและนั่งเรือชมวิวไปตามลำน้ำ พร้อมกับฟังเสียงนกร้องและสัมผัสสายลมเย็น ๆ ในยามค่ำ
การช้อปปิ้งและของฝาก
ตลาดน้ำอัมพวาเต็มไปด้วยสินค้าที่เป็นของท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรม ผลไม้สด อาหารแห้ง และของฝากที่มีเอกลักษณ์ เช่น น้ำตาลมะพร้าวที่เป็นผลผลิตขึ้นชื่อของพื้นที่ นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อของฝากที่เป็นของที่ระลึกจากชุมชน เช่น เครื่องปั้นดินเผา ข้าวเกรียบกุ้ง และขนมหวานต่าง ๆ ที่เป็นของฝากที่ได้รับความนิยม
นอกจากนี้ยังมีของฝากที่หายากอย่าง “ปลาทูแม่กลอง” ซึ่งถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม ปลาทูที่นี่มีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์เนื่องจากสภาพแวดล้อมของแม่น้ำที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของปลาทู
การเดินทางมายังตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวาอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง การเดินทางมายังตลาดน้ำสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การขับรถส่วนตัว การใช้บริการรถตู้จากสถานีขนส่งสายใต้ หรือการนั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟแม่กลองแล้วนั่งรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมายังตลาด
ตลาดน้ำอัมพวายังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น วัดบางกุ้ง และดอนหอยหลอด ซึ่งสามารถจัดแผนการเดินทางเที่ยวแบบครบวงจรในวันเดียวได้
เขาใหญ่ (นครราชสีมา)
ประตูสู่ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งนครราชสีมา
เขาใหญ่เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ที่นี่มอบทั้งความสวยงามของธรรมชาติและกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ชมน้ำตก หรือการตั้งแคมป์ในบรรยากาศที่สดชื่น
ประตูสู่ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งนครราชสีมา
เขาใหญ่ หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ เขาใหญ่ยังเป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย
ธรรมชาติและกิจกรรมยอดนิยม
เขาใหญ่มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาสูงใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี และน้ำตกที่งดงาม ที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เช่น ช้าง กวาง ลิง และนกนานาชนิด ทำให้เขาใหญ่กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมสัตว์และนกในธรรมชาติ
นอกจากการชมสัตว์แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่าที่นี่ มีเส้นทางเดินป่าหลายระดับความยากง่าย เช่น เส้นทางชมวิวผาตะวันลับ ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเขาใหญ่
น้ำตกที่น่าสนใจ
น้ำตกเหวนรกและน้ำตกเหวสุวัตเป็นน้ำตกชื่อดังของเขาใหญ่ น้ำตกเหวนรกมีความสูงกว่า 150 เมตรและเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่วนเหวสุวัตมีความสูงเพียง 20 เมตรแต่มีความสวยงามและสามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่ายกว่า นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความสวยงามของน้ำตกในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำเยอะเป็นพิเศษ
การพักผ่อนในเขาใหญ่
เขาใหญ่ยังเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การตั้งแคมป์ หรือปิกนิกในอุทยาน ซึ่งมีจุดกางเต็นท์หลายแห่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการชมดาวในยามค่ำคืนหรือการตื่นเช้ามาสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่ไม่ชอบการตั้งแคมป์ เขาใหญ่ยังมีรีสอร์ตและที่พักหลายระดับให้เลือก ตั้งแต่โฮมสเตย์เรียบง่ายไปจนถึงรีสอร์ตหรูที่มอบความสะดวกสบายและวิวธรรมชาติที่สวยงาม
การเดินทาง
เขาใหญ่สามารถเดินทางได้ง่ายจากกรุงเทพฯ โดยใช้ถนนพหลโยธินหรือทางหลวงหมายเลข 2 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทั้งรถส่วนตัว รถตู้ หรือรถบัสที่ให้บริการไปยังตัวอุทยาน
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (อยุธยา)
ร่องรอยอารยธรรมที่รุ่งเรือง
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอยุธยาผ่านซากปรักหักพังและวัดวาอารามที่ยังคงงดงาม การเยี่ยมชมอุทยานแห่งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เราเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ของไทยและความรุ่งเรืองในอดีตที่ไม่ควรพลาด
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 85 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจและเป็นแหล่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของอยุธยา
อยุธยาเคยเป็นราชธานีของอาณาจักรอยุธยาซึ่งมีความยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 14 ถึง 18 เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม นอกจากนี้ อยุธยายังเป็นศูนย์กลางการค้าและการติดต่อระหว่างประเทศ มีการติดต่อกับชาวต่างชาติเช่น จีน ญี่ปุ่น โปรตุเกส และฝรั่งเศส การเติบโตของอยุธยาทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางอำนาจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2310 อาณาจักรอยุธยาถูกทำลายโดยกองทัพพม่าซึ่งเข้ายึดเมืองและทำลายวัดวาอารามต่าง ๆ การทำลายล้างครั้งนั้นทำให้เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดและพระราชวังที่เราเห็นในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าชมในอุทยานประวัติศาสตร์
วัดมหาธาตุ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในอุทยาน ด้วยเจดีย์ที่สูงตระหง่านและพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทำให้ภาพนี้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอยุธยา นอกจากนี้ วัดมหาธาตุยังเคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของเมืองในสมัยอยุธยา
วัดพระศรีสรรเพชญ์ อีกหนึ่งวัดที่มีความสำคัญในอุทยาน วัดนี้เคยเป็นวัดประจำพระราชวังและใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของราชวงศ์ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ใหญ่สามองค์ที่ตั้งเรียงรายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัดนี้
พระราชวังหลวง พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์อยุธยา ตั้งอยู่ในเขตกลางของเมือง พระราชวังหลวงเป็นศูนย์กลางการปกครองและการประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงซากอาคารที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต
กิจกรรมที่น่าสนใจ
นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมวัดและโบราณสถานต่าง ๆ ภายในอุทยานได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีบริการเช่าจักรยานหรือรถรางสำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมชมสถานที่หลายแห่งในเวลาที่สั้นลง อีกทั้งยังมีบริการล่องเรือรอบเกาะเมืองเพื่อชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้อมรอบอุทยานประวัติศาสตร์
สำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ที่นี่จัดแสดงสิ่งของโบราณจากยุคอยุธยา รวมถึงเครื่องทองและพระพุทธรูปที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
สวนผึ้ง (ราชบุรี)
สวรรค์ของธรรมชาติที่เงียบสงบในราชบุรี
สวนผึ้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายของเมืองและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมฟาร์มแกะ การพักผ่อนในรีสอร์ตกลางธรรมชาติ หรือการแช่น้ำร้อนเพื่อบำบัดสุขภาพ สวนผึ้งเป็นสถานที่ที่มอบความสุขสงบและประสบการณ์ที่ยากจะลืม
สวนผึ้ง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากในจังหวัดราชบุรี ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์ ทำให้ที่นี่เป็นที่หลบพักผ่อนจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
เสน่ห์ของสวนผึ้ง
สวนผึ้งมีความโดดเด่นในด้านของธรรมชาติและภูมิประเทศที่งดงาม ด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ทุ่งหญ้าเขียวขจี และแม่น้ำไหลผ่าน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มและสวนดอกไม้ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและสัมผัสบรรยากาศชนบทที่ยังคงความงดงามแบบดั้งเดิม
หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่สวนผึ้งคือการไปเยี่ยมชมฟาร์มแกะ ซึ่งมีการเลี้ยงแกะในพื้นที่กว้างขวาง นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารแกะ ถ่ายรูปกับสัตว์น่ารัก และเดินเล่นในทุ่งหญ้า อีกทั้งยังมีฟาร์มวัวนมและสวนดอกไม้ที่จัดแสดงสีสันสวยงามตลอดปี
ที่พักและการพักผ่อน
สวนผึ้งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตและที่พักที่หลากหลาย ตั้งแต่รีสอร์ตสไตล์ยุโรปที่ตกแต่งด้วยความเรียบหรู ไปจนถึงโฮมสเตย์แบบท้องถิ่นที่มอบบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักผ่อนได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งชิลล์ในที่พักพร้อมชมวิวภูเขา หรือการตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นในบรรยากาศเงียบสงบ
ในช่วงฤดูหนาว สวนผึ้งมีอากาศเย็นสบายและหมอกยามเช้าที่งดงาม ทำให้เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวชอบมาเยือนมากที่สุด อากาศที่เย็นกำลังดีทำให้เหมาะแก่การนั่งผิงไฟและดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ในบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
สวนผึ้งมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกเก้าโจน ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีหลายชั้นและล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่งดงาม นอกจากนี้ยังมี บ่อน้ำร้อนบ่อคลึง ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแช่น้ำแร่เพื่อผ่อนคลายและบำบัดสุขภาพ น้ำร้อนจากธรรมชาตินี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด
อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ ธารน้ำร้อนโป่งกระทิง ซึ่งเป็นจุดชมธรรมชาติที่เหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อสัมผัสความเงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านชาวเขาที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวเขาแบบดั้งเดิม
การเดินทางมายังสวนผึ้ง
การเดินทางมายังสวนผึ้งสามารถทำได้โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดราชบุรี แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 3087 ซึ่งจะนำคุณตรงไปยังอำเภอสวนผึ้ง อีกทั้งยังมีรถตู้บริการจากกรุงเทพฯ ไปยังตัวเมืองราชบุรี ซึ่งสามารถต่อรถสองแถวหรือรถรับจ้างไปยังสวนผึ้งได้
เกาะเกร็ด (นนทบุรี)
วิถีชีวิตชุมชนไทยริมน้ำที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์
เกาะเกร็ดเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุดสั้นๆ และการสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมวัด ช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรมดั้งเดิม หรือการลองลิ้มชิมรสอาหารไทยและมอญ เกาะเกร็ดมีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการในบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ
เกาะเกร็ด ตั้งอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดนนทบุรี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม เกาะเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและวิถีชีวิตชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ซึ่งทำให้เกาะเกร็ดกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความเงียบสงบและความเป็นธรรมชาติ
ประวัติและความเป็นมา
เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ เพื่อทำให้การเดินทางทางน้ำรวดเร็วขึ้น โดยในอดีตพื้นที่นี้เป็นชุมชนของชาวมอญที่อพยพเข้ามาในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา ทำให้เกาะเกร็ดมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะศิลปะเครื่องปั้นดินเผาที่ชาวมอญนำมาพัฒนาและสร้างเป็นผลิตภัณฑ์อันมีเอกลักษณ์
วัดวาอารามและวัฒนธรรมมอญ
หนึ่งในสถานที่สำคัญบนเกาะเกร็ดคือ วัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา วัดนี้มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบมอญ และเจดีย์ทรงรามัญที่เอนเอียงไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวสามารถมาสักการะพระพุทธรูปและเยี่ยมชมศิลปะที่งดงามในบริเวณวัด นอกจากนี้ วัดนี้ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มการเดินเที่ยวชมเกาะได้
วิถีชีวิตของชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน ผู้คนบนเกาะส่วนใหญ่ยังคงทำเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องใช้เซรามิกแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อเป็นของฝากได้ และยังมีเวิร์กช็อปที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำเครื่องปั้นดินเผาเอง
อาหารท้องถิ่นและของหวานที่ห้ามพลาด
นอกจากความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิม เกาะเกร็ดยังเป็นแหล่งรวมอาหารไทยและมอญที่หายาก หนึ่งในของหวานที่ขึ้นชื่อคือ “ทอดมันหน่อกะลา” ซึ่งทำจากหน่อกะลาผสมกับเนื้อปลาและเครื่องเทศ อีกทั้งยังมีขนมไทยโบราณ เช่น ข้าวแช่มอญ ขนมหวานที่ทำจากน้ำหอมและข้าวเหนียวที่ช่วยคลายร้อน
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าเล็กๆ ขายอาหารแบบสตรีทฟู้ดและของหวานที่สามารถนั่งทานริมฝั่งแม่น้ำได้ อาหารที่ได้รับความนิยมบนเกาะนี้ยังรวมถึง ขนมเบื้องญวน และอาหารมอญที่หาทานได้ยากในพื้นที่อื่น
การเดินทางและกิจกรรม
การเดินทางมายังเกาะเกร็ดนั้นสะดวกและง่ายดาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือข้ามฟากจากท่าน้ำปากเกร็ด ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที การเดินเที่ยวบนเกาะเกร็ดนั้นสามารถทำได้โดยการเดินหรือเช่าจักรยาน นอกจากนี้ยังมีเรือนำเที่ยวรอบเกาะที่ให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิถีชีวิตชาวบ้าน
กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะเกร็ดรวมถึงการเดินช้อปปิ้งซื้อของฝากที่ตลาดริมน้ำ และเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวมอญเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมการปั้นดินเผา นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะชมการทำอาหารและของหวานท้องถิ่น และสัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิมที่ยังคงอยู่บนเกาะแห่งนี้
วัดไผ่โรงวัว
วัดสวยงามแห่งสุพรรณบุรี
วัดไผ่โรงวัวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีความสำคัญและงดงามในจังหวัดสุพรรณบุรี นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับศิลปะทางพุทธศาสนา ชมพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สวยงาม และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย วัดนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและต้องการความสงบสุขจากชีวิตประจำวัน
วัดไผ่โรงวัว ตั้งอยู่ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสวยงามและโดดเด่นในด้านประติมากรรมทางพุทธศาสนา วัดนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ด้วยพระพุทธรูปขนาดใหญ่และรูปปั้นต่างๆ ที่สะท้อนถึงศิลปะและศาสนาพุทธอย่างชัดเจน
ประวัติและความเป็นมา
วัดไผ่โรงวัวถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2469 โดยหลวงพ่อขอม เจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัดนี้ให้กลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธ ด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อขอม วัดนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาและสัญลักษณ์แห่งพุทธศาสนา
ชื่อ “ไผ่โรงวัว” มาจากสภาพแวดล้อมในอดีตที่วัดตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไผ่และโรงวัวของชาวบ้าน วัดนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในฐานะวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
พระพุทธรูปและประติมากรรมที่น่าประทับใจ
สิ่งที่ทำให้วัดไผ่โรงวัวเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายคือ พระพุทธโคดม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากทองแดงผสมทองเหลือง มีความสูงถึง 42 เมตร พระพุทธโคดมนี้ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาของชาวพุทธที่มาเยี่ยมชมวัด
นอกจากนี้ยังมี พระพุทธยานันทโลก พระพุทธรูปปางนาคปรกที่สร้างด้วยศิลาแลง ถือเป็นอีกหนึ่งประติมากรรมที่มีความงดงามและมีความสำคัญทางศาสนา
ภายในวัดยังมีประติมากรรมอื่นๆ ที่สะท้อนถึงเรื่องราวในพุทธประวัติ เช่น รูปปั้นพระอานนท์และสาวกของพระพุทธเจ้า รวมถึงสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความศรัทธาอย่างแท้จริง
พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา
นอกจากความสวยงามของพระพุทธรูป วัดไผ่โรงวัวยังมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาในประเทศไทย ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงวัตถุโบราณ รูปปั้น และเครื่องมือทางศาสนาที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ยังมีโซนจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวพุทธในประเทศไทย ซึ่งให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างละเอียด
กิจกรรมทางศาสนาและการท่องเที่ยว
วัดไผ่โรงวัวเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมทางศาสนา เช่น การสวดมนต์ ทำบุญ ถวายสังฆทาน และการปฏิบัติธรรม วัดนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการมาเยี่ยมชมวัดและสัมผัสกับบรรยากาศของความสงบสุข
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมงานบุญต่างๆ ที่จัดขึ้นในวัด เช่น งานวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถร่วมงานและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างเต็มที่
การเดินทางมายังวัดไผ่โรงวัว
วัดไผ่โรงวัวตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวผ่านทางถนนสาย 340 หรือใช้บริการรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีได้ เมื่อถึงตัวเมืองสุพรรณบุรี สามารถเดินทางต่อด้วยรถสองแถวหรือรถรับจ้างมายังวัดได้อย่างสะดวก
ปราณบุรี (ประจวบคีรีขันธ์)
ความสงบเงียบและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของประจวบคีรีขันธ์
ปราณบุรีเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ที่นี่มีกิจกรรมทางธรรมชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่การเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ไปจนถึงการพักผ่อนริมชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและเติมพลังให้กับตัวเองในสถานที่ที่งดงามและไม่แออัด
ปราณบุรี ตั้งอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากหัวหินไปทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านความสงบและธรรมชาติอันงดงาม ไม่เหมือนหัวหินที่คึกคัก ปราณบุรีเสน่ห์ด้วยความเงียบสงบและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากชีวิตวุ่นวาย
ชายหาดที่สวยงาม
หนึ่งในไฮไลท์ของปราณบุรีคือ ชายหาดที่ยาวและเงียบสงบ ไม่ว่าจะเป็นหาดปากน้ำปราณหรือหาดเขากะโหลก ชายหาดที่นี่มีความสะอาดและเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นบนหาดทรายขาว ดำน้ำตื้น หรือเล่นกีฬาทางน้ำต่างๆ ได้ นอกจากนี้ ชายหาดที่ปราณบุรียังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่โรแมนติกสำหรับคู่รักหรือครอบครัว
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนปราณบุรีคือ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อุทยานนี้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งภูเขาและทะเล ทำให้มีกิจกรรมทางธรรมชาติมากมาย เช่น การปีนเขา เดินป่า และล่องเรือชมความงามของทะเลสาบน้ำเค็ม
หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงของอุทยานคือ ถ้ำพระยานคร ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงดงาม โดยภายในถ้ำมีพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด ทำให้เป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการชมนกและธรรมชาติ
ตลาดท้องถิ่นและอาหารทะเล
ปราณบุรียังมีตลาดท้องถิ่นที่น่าสนใจ เช่น ตลาดปราณบุรี ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อของฝากและชิมอาหารท้องถิ่นได้ อาหารที่ได้รับความนิยมในบริเวณนี้คือ อาหารทะเลสดๆ ที่สามารถเลือกสรรได้จากร้านอาหารริมทะเล ซึ่งมีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา สดใหม่จากทะเล
อีกหนึ่งกิจกรรมที่นิยมในปราณบุรีคือการเยี่ยมชมฟาร์มปลาและฟาร์มกุ้ง นักท่องเที่ยวสามารถชมกระบวนการเลี้ยงและจับปลาในท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด ทำให้เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน
ที่พักและการผ่อนคลาย
ปราณบุรีเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทและโรงแรมหรูหลายแห่งที่ตั้งอยู่ริมชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักในรีสอร์ทหรูที่มีบริการครบครัน เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัว สปา และกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ หรือหากต้องการความสงบเงียบและเป็นส่วนตัว ก็มีที่พักแบบโฮมสเตย์และวิลล่าริมทะเลที่ให้บรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย
การเดินทางมายังปราณบุรี
การเดินทางมายังปราณบุรีสามารถทำได้ง่ายดายจากกรุงเทพฯ โดยการขับรถใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีรถตู้หรือรถโดยสารที่ให้บริการจากกรุงเทพฯ มายังหัวหินและปราณบุรี นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้บริการเหล่านี้ได้สะดวก
นครนายก
ดินแดนแห่งธรรมชาติและการผจญภัยใกล้กรุงเทพฯ
นครนายกเป็นจังหวัดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม น้ำตกที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้ทำให้นครนายกเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ หรือผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
นครนายกเป็นจังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 100 กิโลเมตร ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่ไกลจากเมืองหลวง จังหวัดนี้มีทั้งภูเขา น้ำตก และสถานที่ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวที่นี่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความผ่อนคลาย
น้ำตกสาริกาและน้ำตกนางรอง
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังของนครนายกคือน้ำตกสาริกา น้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในพื้นที่ น้ำตกนี้มีถึง 9 ชั้นและมีทางเดินขึ้นสู่จุดสูงสุดที่สามารถชมวิวได้อย่างงดงาม น้ำตกสาริกาเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาพักผ่อนและเล่นน้ำในช่วงวันหยุด
นอกจากน้ำตกสาริกาแล้ว ยังมีน้ำตกนางรองที่ตั้งอยู่ใกล้กัน น้ำตกนางรองมีบรรยากาศที่เงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว นอกจากนี้ ยังมีที่นั่งสำหรับปิกนิกริมแม่น้ำให้ได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติรอบข้าง
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครนายกคือการเยี่ยมชม อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดและเป็นมรดกโลกของประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่า ชมสัตว์ป่า และชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยอดนิยมเช่น การตั้งแคมป์และการนั่งรถชมสัตว์ในเวลากลางคืน ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
วัดหลวงพ่อปากแดง
สำหรับผู้ที่สนใจด้านศาสนาและวัฒนธรรม วัดหลวงพ่อปากแดง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด วัดนี้มีพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีเอกลักษณ์คือพระโอษฐ์สีแดงสด ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศที่มาสักการะและขอพรในเรื่องโชคลาภ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีบรรยากาศที่สงบและร่มรื่นเหมาะแก่การทำบุญและสวดมนต์
กิจกรรมกลางแจ้งที่น่าตื่นเต้น
นครนายกยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น การล่องแก่งที่แม่น้ำนครนายก ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมในช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความสนุกจากการพายเรือยางผ่านกระแสน้ำที่ท้าทาย นอกจากนี้ยังมี การปั่นจักรยาน ที่สามารถเดินทางผ่านเส้นทางธรรมชาติที่เงียบสงบและมีทิวทัศน์สวยงาม รวมถึงกิจกรรม การโรยตัวจากหน้าผา ที่น้ำตกวังตะไคร้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ท้าทายความกล้าและเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
พัทยา (ชลบุรี)
สถานที่ท่องเที่ยวครบวงจรของชลบุรี
พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางที่ครบวงจรสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมทะเล กิจกรรมกลางแจ้ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หรือการเพลิดเพลินกับชีวิตกลางคืน เมืองนี้มีทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการ ทั้งความสนุกสนานและการผ่อนคลาย
พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 150 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศไทย ด้วยชายหาดที่สวยงาม ชีวิตกลางคืนที่คึกคัก และกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย พัทยาเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
ชายหาดพัทยาและกิจกรรมทางน้ำ
ชายหาดพัทยา เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการท่องเที่ยวที่นี่ ชายหาดยาวหลายกิโลเมตรนี้มีน้ำทะเลใสสะอาดและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการอาบแดด เล่นน้ำ หรือเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เจ็ตสกี พาราเซลลิ่ง และเรือกล้วย นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่เงียบสงบกว่าอย่าง หาดจอมเทียน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพัทยา ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างสงบ
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
พัทยาเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมคือ ปราสาทสัจธรรม ซึ่งเป็นอาคารไม้แกะสลักที่สร้างขึ้นด้วยความละเอียดอ่อนและมีเนื้อหาทางปรัชญาที่ลึกซึ้ง ปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความเชื่อทางศาสนาและปรัชญาทางจิตวิญญาณของมนุษย์
เมืองจำลอง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ โดยเป็นสถานที่ที่รวบรวมแบบจำลองของสถานที่สำคัญจากทั่วโลก เช่น หอไอเฟลและเทพีเสรีภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ได้ในที่เดียว
ชีวิตกลางคืนในพัทยา
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้ว พัทยายังมีชื่อเสียงในเรื่องของ ชีวิตกลางคืนที่คึกคัก โดยเฉพาะบริเวณ ถนนคนเดิน (Walking Street) ที่เต็มไปด้วยบาร์ คลับ และสถานบันเทิงที่เปิดจนดึก นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงสด ดนตรี หรือแค่เดินเล่นชมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
สวนน้ำและสวนสนุก
พัทยายังมีสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัว เช่น สวนน้ำรามายณะ ซึ่งเป็นสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่มีเครื่องเล่นสไลเดอร์น้ำหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมี สวนสนุกพัทยาปาร์ค ที่มีทั้งสวนน้ำ สวนสนุก และหอชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มตา
อาหารทะเลสดและร้านอาหารท้องถิ่น
พัทยายังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารทะเลสดๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรูริมทะเลหรือร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ เช่น ปู กุ้ง หอย และปลาที่ปรุงสไตล์ไทยอร่อยได้ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารนานาชาติและคาเฟ่หลายแห่งที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน
การเดินทางไปพัทยา
พัทยาสามารถเดินทางได้สะดวกจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งรถตู้หรือรถไฟมาถึงพัทยาได้ง่ายดาย
บางแสน (ชลบุรี)
ชายหาดแสนสวยและเสน่ห์ท้องถิ่นที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
บางแสนเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ด้วยชายหาดที่สวยงาม บรรยากาศที่เงียบสงบ และกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง ที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่
บางแสน ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 90 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่ต้องการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ชายหาดที่สวยงาม และกิจกรรมที่หลากหลาย บางแสนจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
ชายหาดบางแสน
ชายหาดบางแสนเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นบนหาดทรายที่ยาวหลายกิโลเมตร ทะเลที่นี่มีน้ำใสและสะอาด พร้อมกับมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ อาบแดด หรือเช่าเตียงผ้าใบเพื่อพักผ่อนริมชายหาดได้ หากคุณชอบการทำกิจกรรมทางน้ำ ที่บางแสนยังมีบริการให้เช่าห่วงยางและเรือบานาน่าโบ๊ท นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวและที่ถ่ายรูปสวยงามที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเก็บความทรงจำ
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
นอกจากชายหาดที่สวยงามแล้ว บางแสนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่รวบรวมสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมปลาหลากสีสัน ปลาฉลาม และสัตว์ทะเลอื่นๆ ที่นี่เป็นแหล่งการเรียนรู้และสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาเยี่ยมชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่
อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจคือ เขาสามมุข ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการชมวิวทะเลและมีลิงที่อาศัยอยู่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวมักจะขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกและให้อาหารลิงที่นี่ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าที่นักท่องเที่ยวสามารถสักการะและขอพรได้
ตลาดประมงและอาหารทะเล
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล บางแสนมีตลาดท้องถิ่นที่มีอาหารทะเลสดๆ ให้เลือกซื้อ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา และปลาหมึก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลและนำไปปรุงอาหารทานเองหรือทานที่ร้านอาหารท้องถิ่นริมชายหาดได้ อาหารทะเลที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสดและรสชาติที่อร่อย ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนบางแสน
กิจกรรมกลางแจ้งและงานเทศกาล
บางแสนยังมีกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าสนใจ เช่น การปั่นจักรยานเลียบชายหาด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาก นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานและปั่นชมวิวทะเลพร้อมกับรับลมทะเลสดชื่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมประเพณีท้องถิ่นที่น่าสนใจ เช่น งานวิ่งบางแสนมาราธอน และ งานประเพณีแห่พวงมาลัย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี งานเหล่านี้เป็นโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น
การเดินทางมายังบางแสน
การเดินทางมายังบางแสนทำได้ง่ายดาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ยังมีรถตู้โดยสารที่ให้บริการจากกรุงเทพฯ ไปยังตัวเมืองชลบุรีและบางแสนตลอดทั้งวัน